ภาพดาวเทียมขององค์การนาซ่าโดยสำนักงานวิจัยชั้นบรรยากาศกองทัพเรือสหรัฐที่เผยแพร่ตอนเช้าตรู่วันเสาร์ 28 ก.ย.นี้ตามเวลาในประเทศไทย แสดงให้เห็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ลูกใหญ่กำลังพัดไอน้ำขึ้นคละคลุ้งในย่านกึ่งกลางทะเลจีนใต้ เมื่อเวลา 7 น.วันนี้ไต้ฝุ่นหวูติ๊บ (Wutip) อยู่ห่างจากฝั่งทะเลภาคกลางเวียดนามราว 340 กิโลเมตร และกำลังเคลื่อนตัวช้าๆ ในทิศทางตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือจนยากจะพยากรณ์ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฯ เวียดนามคาดว่าไต้ฝุ่นจะเข้าฝั่งวันอังคารหน้า ขณะที่หน่วยพยากรณ์อากาศของกองทัพเรือสหรัฐกับ TSR ในกรุงลอนดอนออกแผยภูมิชี้ปลายทางของไต้ฝุ่นลูกนี้ที่ชายแดนลาวไทยหรือแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในภาคกลางตอนบนของไทย.. โปรดอย่ากระพริบตา.
เวียดนามสั่งรับมือไต้ฝุ่นลูกใหม่เต็มพิกัดในวันเสาร์ 28 ก.ย.นี้ในขณะที่ท้องทะเลกำลังปั่นป่วนหนักด้วยอิทธิฤทธิ์ของพายุลูกใหญ่ที่คาดว่าจะพัดเข้าถึงฝั่งในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า ภาพจากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา MTSAT ทีเผยแพร่โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาหลายแห่งในย่านนี้แสดงให้เห็นไต้ฝุ่นระดับ 1 กำลังปั่นไอน้ำขึ้นคละคลุ้งบรรยากาศในย่านกลางทะเลจีนใต้ และศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่นของกองทัพเรือสหรัฐพยากรณ์ว่าปลายทางของมันต้นสัปดาห์หน้าอาจจะอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยหรืออาจไปได้ไกลถึงแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อกลายเป็นดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ
สำนักพยากรณ์เตือนภัยพายุในเขตร้อน (Tropical Storm Risk) ในกรุงลอนดอนก็ได้ออกแผนภูมิพยากรณ์คล้ายกันชี้ให้เห็นปลายทางของไต้ฝุ่นหวูติ๊บ (Wutip) ในแถบภาคกลางตอนบนของไทยในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งถ้าหากเป็นไปตามนี้ก็จะเป็นความโชคร้ายอย่างยิ่งขณะที่ประชาชนหลายล้านในจังหวัดแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาของไทยกำลังประสบอุทก
"หวูติ๊บ" เป็นเสียงเรียกชื่อพายุรุนแรงในเขตร้อนลูกนี้ที่บันทึกเสียงไว้โดยหอสังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) คำๆ นี้มีความหมายว่า "ผีเสื้อ" ตามภาษาท้องถิ่นมาเก๊าที่มีแมลงปีกสวยงามชนิดนี้หลากหลายพันธุ์ในช่วงหน้าหนาว-ฤดูใบไม้ผลิ
หวูติ๊บนับเป็นพายุลูกที่ 10 ที่ก่อเกิดหรือพัดเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในปีนี้ตามระบบนับของเวียดนาม เริ่มต้นเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเมื่อ 72 ชั่วโมงที่แล้ว และเพิ่มความหนาแน่นของมวล กลายเป็นดีเปรสชั่น-พายุโซนร้อนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์เป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 (119-153 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ตอนเช้าตรู่วันเสาร์
ตามรายงานของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย หวูติ๊บเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 10-15 กม./ชม. และเมื่อเวลา 07.00 น.วันเสาร์นี้อยู่ห่างจากฝั่งทะเลภาคกลางราว 340 กม. โดยมีทิศทางเคลื่อนตัวขึ้นลงระหว่างแนวตะวันตกกับตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่าจะเข้าถึงฝั่งระหว่างนครด่าหนังกับ จ.เหงะอาน (Nge An) ในวันอังคาร 1 ต.ค. ก่อนอ่อนตัวลงเป็นพายุโซนร้อนขณะพัดเข้าลาวซึ่งจะอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่น
อย่างไรก็ตามแผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์ร่วมแจ้งเตือนภัยไต้ฝุ่น หรือ JTWC (Joint Typhoon Warning Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกองทัพเรือสหรัฐในนครโฮโนลูลู มลรัฐฮาวายตอนเช้าตรู่วันเสาร์ ได้ชี้ให้เห็นปลายทางของหวูติ๊บที่อยู่ไกลถึงชายแดนลาวติดกับ จ.น่านและอุตรดิตถ์ของไทย และถ้าหากพายุพัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็อาจจะไปสิ้นสุดลงในแถบ จ.พิษณุโลก เมื่ออ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ
สัปดาห์นี้เวียดนามยังอยู่ระหว่างฟื้นฟูหลายพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากปลายสัปดาห์ที่แล้วตั้งแต่จังหวัดในเขตที่ราบสูงตอนกลางขึ้นไปจนถึง จ.เหงะอานในภาคกลางบางตอนบน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 10 คน บ้านเรือนและทรัพย์สินของราษรเสียหายเป็นจำนวนมาก
แต่อุณหภูมิในกรุงฮานอยกับจังหวัดทางตอนเหนือของเวียดนามเริ่มลดลงต่ำในช่วงไม่กี่วันมานี้ เด็กๆ ในเมืองหลวงของเวียดนามต้องสวมเสื้อกันหนาวไปเรียน ประชาชนทั่วไปสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่นขึ้น ราษฎรในหายหมู่บ้านในย่านรอบนอกของเมืองหลวงต้องก่อไฟผิงในยามเช้าตรู่
ถ้าหากมวลอากาศจากทางเหนือแผ่ลงปกคลุมอนุภูมิภาคนี้เร็วขึ้นก็อาจจะช่วยลดระดับความรุนแรงและทำให้อายุของไต้ฝุ่นหวูติ๊บหดสั้นลง ซึ่งดูจะเป็นความหวังเดียวสำหรับประชาชนเวียดนาม ลาวและไทยที่จะรอดพ้นภัยพิบัติจากพายุชื่อสวยงามลูกนี้
ชื่อ "หวูติ๊บ" ถูกนำออกใช้เป็นครั้งแรกในเดือน ส.ค.2544 ซึ่งในช่วงรุนแรงที่สุดเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 โดยกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิกพัดผ่านบริเวณหมู่เกาะมารินา (Marina Islands) ก่อนไปสิ้นฤทธิ์ที่บริเวณชายฝั่งตอนใต้ของจีนโดยไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรง
ตามประวัติไต้ฝุ่นในแปซิฟิกที่ราบรวมโดยองค์การอุตุนิยมวิทยาแห่งญี่ปุ่น หรือ JMT (Japan Meteorological Agency) ชื่อหวูติ๊บถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่งในต้นเดือน ส.ค.2550 เป็นพายุโซนร้อนลูกเล็กๆ ก่อเกิดในบริเวณใกล้เคียงกันกับลูกปัจจุบัน แต่สลายตัวไปก่อนจะเข้าถึงฝั่งในภาคกลางตอนบนเวียดนามเนื่องจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นปลาบึก (Pabuk) ลูกที่ใหญ่กว่าที่กำลังพัดผ่านเกาะไต้หวันในช่วงเดียวกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไต้ฝุ่นชื่อ "ปลาบึก" อีกลูกหนึ่ง ได้ช่วยกดดันทำให้ไต้ฝุ่นอูซางิ (Usagi) อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วหลังจากทำให้ชาวจีนเสียชีวิตไปอย่างน้อย 25 คน แต่

.
แผนภูมิโดยสถาบัน SSEC มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐ ที่ออกเผยแพร่เช้าตรู่วันเสาร 28 ก.ย. ตามเวลาในประเทศไทยแสดงเส้นทางเคลื่อนที่ของไต้ฝุ่นหวูติ๊บ (Wutip) โดยใช้ข้อมูลของ JTWC พร้อมแสดงให้เห็นอาณาบริเวณที่จะได้รับผลกระทบขณะพายุเคลื่อนตัวผ่านตลอดสุดสัปดาห์นี้ถึงต้นสัปดาห์หน้า อนุภูมิภาคนี้กำลังรอโชคช่วยอีกครั้ง.
แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางเวียดนามเวลา 09.30 น.วันเสาร์ 28 ก.ย.นี้ แสดงให้เห็นการเดินทางของไต้ฝุ่นหวูติ๊บ (Wutip) ที่หดสั้นลงในดินแดนลาววันที่ 1 ต.ค. ก่อนมลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่จะทำให้เกิดฝนตกหนักในช่วงก่อนหน้านั้น ศูนย์อุตุนิยมฯ เวียดนามคาดว่ามวลอากาศเย็นจากตอนเหนือจะเคลื่อนลงปกคลุมอนุภูมิภาคและกดดันให้ไต้ฝุ่นสิ้นฤิทธิ์เร็วขึ้น.
แผนภูมิพยากรณ์โดยสำนัก TSR ในกรุงลอนดอนสอดคล้องกับของ JTWC ซึ่งถ้าหากไม่มีอะไรในระหว่างทาง ไต้ฝุ่นหวูติ๊บก็จะเคลื่อนผ่านภาคอีสานตอนบนของไทยทะลุไปจนถึงลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา .. ตอนนี้เวียดนาม ลาวและไทย กำลังรอโชคช่วย.. มวลอากาศเย็นจากตอนเหนือที่เคลื่อนลงมาในช่วงเดียวกัน.
จะนับเป็นความโชคร้ายยิ่งถ้าหากไต้ฝุ่นหวูติ๊บ (Wutip) อยู่รอดปลอดภัยไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้าและกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำทำให้เกิดฝนตกซ้ำเติมสภาวะน้ำท่วมในแถบจังหวัดอีสานตอนเหนือกับลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่ประชาชนไทยหลายล้านกำลังเดือดร้อนในสัปดาห์นี้.
แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่นน หรือ JTWC ของกองทัพเรือสหรัฐในนครโฮโนลูลู อิงตามข้อมูลดาวเทียมในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แสดงแนวการเคลื่อนที่ของหวูติ๊บ (Wutip) ไต้ฝุ่นระดับ 1 ซึ่งคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเข้าฝั่งเวียดนามและเป็นดีเปรสชั่นในดินแดนลาวกับภาคอีสานตอนบนของไทยก่อนมลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำต้นสัปดาห์หน้าซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในภาคกางตอนบนของไทยที่กำลังเจอปัญหาอุทกภัยในขณะนี้.
กรุงเทพฯจะรอดจากน้ำท่วมอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหวู๋ติ๊บลูกนี้แล้ว คอยดูนะ
ขอบคุณ ข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์