คุณครู.คอม
.









Online: 18 user(s)

ตั้งแต่ 3 กุมภาพันธ์ 2541





kunkroo radio

ตรวจสอบแทรคไปรษณีย์ไทย

domain register Admin Only

ทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต

ตรวจสอบไอพี(IP check for locate)

..
     


    :  เกี่ยวกับเราคุณครู.คอม
หมวด: สุขภาพ
ความดันโลหิต ทำไมต้องมีตัวเลขสองค่า
01-12-2014 เข้าชมแล้ว: 6869
ความดันโลหิต สงสัยไหมว่าทำไมต้องมีตัวเลขสองค่า




ความดันโลหิต สงสัยไหมว่าทำไมต้องมีตัวเลขสองค่า
หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่าทำไมค่าความดันเลือดต้องมีสองค่า อยากรู้ไหมครับ
แพทย์เรียกความดันค่าที่มากกว่าว่า systolic และเรียกค่าที่ต่ำกว่าว่า diastolic การติดตามวัดความดันโลหิตค่าทั้งสองตัวมีความสำคัญ และน่าจะรู้ว่ามาได้ยังไง

 

 

ค่าความดัน systolic

เมื่อหัวใจเต้น จะมีการบีบตัวและดันเลือดออกมาจากหัวใจไปตามเส้นเลือดแดงทั่วร่างกาย แรงดันนี้ทำให้เกิดความดันในเส้นเลือดแดง ค่าความดันที่วัดได้นี้คือความความดัน systolic

    ค่าปกติของความดัน systolic นี้ควรจะต่ำกว่า 120
    ถ้าระดับที่วัดได้คือ 120-139 แปลว่าคุณเริ่มมีความเสี่ยงที่จะเป็นความดันโลหิตสูง Prehypertension หรือเรียกอีกอย่างว่า borderline hypertension
   ซึ่งแปลว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมากขึ้น ความดัน systolic ทีสูงกว่า 140 ถือว่าเป็นความดันโลหิตสูง

ค่าความดัน diastolic



ค่าความดัน diastolic หรือค่าความดันตัวล่าง แสดงถึงความดันในเส้นเลือดแดงในขณะที่หัวใจพักการบีบตัวแต่ละครั้ง

    ค่าปกติควรจะต่ำกว่า 80
    ค่าระหว่าง 80-89 แสดงว่าเริ่มมีความเสี่ยงที่จะเป็นความดันโลหิตสูง
    ค่าที่สูงกว่า 90 ถือว่าเป็นความดันโลหิตสูง

วิธีการวัดความดันโลหิต

 

การวัดความดันโลหิตเป็นการตรวจที่ง่ายและไม่ต้องใช้เครื่องมือยุ่งยาก และไม่ต้องเจ็บตัว เพียงใช้เครื่องวัดความดันที่ต่อเข้ากับส่วนที่พันกับต้นแขน
โดยขณะตรวจแพทย์จะใช้เครื่องฟัง ตรวจฟังเสียงของเลือดที่เส้นเลือดแดง ความดันจะถูกบีบขึ้นไปทำให้ cuff แน่นขึ้นจนความดันสูงกว่าระดับความดันโลหิต systolic
และถูกปล่อยลงช้า ๆ เสียงแรกที่ได้ยินทางเครื่องฟัง คือระดับความดัน systolic จนกระทั่งเสียงหายไปนั่นคือระดับความดัน diastolic
ก็จะทำให้ได้ค่าความดันโลหิตที่วัดได้เช่น 120/80 หน่วยที่ใช้เรียกคือ มิลลิเมตรปรอท mm Hg.

 

ควรจะตรวจวัดความดันโลหิตบ่อยแค่ไหน

    ถ้าความดันโลหิตปกติ คือน้อยกว่า 120/80 สามารถตรวจความดันอย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุกสองปี หรือบ่อยกว่านั้นถ้าแพทย์แนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม
    ถ้าความดันโลหิตอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงจะเป็นความดันโลหิตสูง คือระดับความดัน systolic อยู่ระหว่างค่า 120-139 หรือ ความดัน diastolic อยู่ระหว่าง 80 to 89
ควรจะตรวจความดันโลหิตอย่างน้อยปีละครั้ง หรือมากกว่าถ้าแพทย์แนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม
    ถ้าความดันโลหิตสูงกว่า 140-90 ควรพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยันว่าเป็นความดันโลหิตสูง และทำการรักษาตามความเหมาะสม

สามารถวัดความดันโลหิตเองที่บ้านได้หรือไม่

 

 

การติดตามตรวจความดันโลหิตเองที่บ้านเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนที่มีความดันโลหิตสูง ซึ่งจะทำให้ติดตามให้การรักษาได้ดีขึ้น
อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มคนที่เรียกว่า "white coat hypertension." คือคนที่มีความกังวลเมื่อต้องมาพบแพทย์และจะทำให้มีความดันโลหิตสูงกว่าปกติทุกครั้งที่มาพบแพทย์
ลองเลือกหาซื้อเครื่องวัดความดันสำหรับใช้เองที่บ้าน ซึ่งในปัจจุบันจะมีเครื่องดิจิตอลซึ่งใช้ง่ายเพียงปุ่มเดียวก็สามารถอ่านความดันโลหิตได้ทันที
ที่สำคัญคือพยายามเลือกที่พันแขนให้มีขนาดพอเหมาะกับคุณ เพราะถ้าแขนของคุณใหญ่มากกว่าขนาดที่พันแขนจะทำให้ค่าที่วัดได้สูงเกินจริง
หมอหมีแนะนำเครื่องรุ่นที่พันต้นแขนเนื่องจากให้ความแม่นยำมากกว่า และเมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ควรนำเครื่องที่วัดที่บ้านมาวัดเปรียบเทียบกับเครื่องของทางโรงพยาบาลเพื่อให้แน่ใจว่ายังแม่นยำดีอยู่

ก่อนวัดความดันโลหิต ควรงดกาแฟ บุหรี่ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ประมาณ 30 นาที อาจจะใช้ท่านั่งให้สามารถวางเท้าทั้งสองข้างบนพื้น
วางแขนไว้กับโต๊ะ ให้ส่วนบนของแขนอยู่ระดับเดียวกับหัวใจ พยายามเลือกวัดความดันในเวลาเดียวกันทุกวัน เช่นเวลาเช้า หลังจากตื่น ๆ
ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย และอย่าลืมจดบันทึกความดันไว้ในสมุดเผื่อไว้สำหรับการพบแพทย์
ความดันโลหิตสูงไม่จำเป็นต้องมีอาการผิดปกติ การรักษาจึงไม่ได้รักษาอาการ แต่เป็นการรักษาระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน ไม่ว่าจะเป็นหัวใจวาย เส้นเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคไต


ที่มา : https://www.facebook.com/notes/drcarebear-samitivej/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B1
%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%
E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%
B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%
80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2/160794507286955





หมวด: สุขภาพ
»เรื่องยาเหนือ รมควันฆ่าไวรัส จากหนังสือธัมมวิโมกข์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
14-07-2021
»ระวังเรื่องอาหารปลอม 10 อย่าง
08-10-2017
»การระวังรักษาข้อเข่าเสื่อม
08-01-2017
»“มันเทศ” คุณค่าเพียบ เผย “สีม่วง” สารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี
03-01-2017
»ภาวะไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูงจะทำอย่างไร
08-10-2016
»การดื่ม “น้ำแร่” อาจเป็นการกระตุ้นให้ความดันโลหิตสูง
06-10-2016
»ประโยชน์กล้วยหอมทอง
02-10-2016
»ประโยชน์ของการดื่มเบียร์
01-10-2016
»ฟอกปอดให้สะอาดด้วยของ 4 ชนิด
14-09-2016
»มะเร็งตับอ่อน และท่อน้ำดี ก็หายได้ด้วยฟักข้าวเป็นพระเอก
13-08-2016
»กัญชารักษามะเร็ง!! เปิดประสบการณ์ลับ ผู้ป่วยมะเร็งตับ หมอบอกตายแน่ แต่กัญชาช่วยไว้ได้!
11-08-2016
»เตือน! ออกกำลังตอนเช้าทั้งที่ท้องยังว่าง เสี่ยงตับพัง พอๆ กับคนกินเหล้า
19-04-2016
»4 อาหารต้องห้าม ทำแก่ไม่รู้ตัว
05-04-2016
»แพทย์ญี่ปุ่นชี้ อดข้าวเช้าเสี่ยงความดันสูง,เส้นเลือดแตก
04-03-2016
»อาหารที่ไม่ตวรรับประทานบ่อย 10 อย่าง
29-02-2016
»5 เหตุผลชวนเดินออกกำลัง 9,900 ก้าวต่อวัน
11-11-2015
»พฤติกรรมเนือยนิ่ง นั่งทำงาน นอนเล่นมือถือ ไม่เคลื่อนไหว เสี่ยงตายก่อนวัย ป่วยโรค NCDs
09-09-2015
»4 วิธีไล่มดได้ผล แบบไม่ต้องฆ่า
27-05-2015
»วันความดันโลหิตสูงโลก
17-05-2015
»เห็ดเข็มทองอาหารมหัศจรรย์
10-05-2015
»คอเรสเตอรอล กินได้ ไม่มีปัญหา
02-05-2015
»ออกกำลังกายเวลาไหนดี
17-03-2015
»"รางจืด" ช่วยล้างท้องคนกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตาย
03-03-2015
»เมล็ดทานตะวันและเมล็ดฟักทอง
14-02-2015
»เรื่องกล้วย ๆ แต่ไม่ธรรมดา
10-02-2015
»แร่ใยหิน อันตราย
30-01-2015
»ชาเขียวขวดน้ำตาลเพียบ แนะชงดื่มเองร้อนๆ แบบเข้มข้น
15-01-2015
»5 กฏเหล็ก หน้าเด็ก สั่งได้
07-01-2015
»โรคหัวใจขาดเลือด ตาย 4 ใน 10
07-01-2015
»อยากดั้งโด่ง
07-01-2015
»ลดน้ำหนักด้วยกล้วยหอม
04-01-2015
»อย่าดื่มเหล้าคลายหนาว
21-12-2014
»10 เคล็ดวิธีปิ้งย่างปลอดภัย ไม่ต้องกลัวมะเร็ง
17-12-2014
»แมคคาเดเมีย ราชาแห่งถั่ว ธัญพืชเพื่อสุขภาพ
13-12-2014
»ความดันโลหิต ทำไมต้องมีตัวเลขสองค่า
01-12-2014
»บุหรี่ไฟฟ้ามีสารก่อมะเร็งมากกว่าบุหรี่ธรรมดา 10 เท่า
28-11-2014
»น้ำมันมะกอก
24-11-2014
»ว่านหางจรเข้
24-11-2014
»ระวัง เด็ก ๆก็เป็นเบาหวานได้
16-11-2014
»ใครอยากเลิกเหล้า อ่านงานวิจัยนี้
24-10-2014
»เกสรผึ้ง
20-10-2014
»สารพิษผักผลไม้ในห้างเกินมาตรฐาน
21-08-2014
»นอนหัวค่ำ หน้าอ่อน สมองแจ่มใส
21-08-2014
»น้ำเสาวรส และประโยชน์มหาศาล
05-07-2014
»ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกตากแดดเสี่ยงมะเร็ง แค่เรื่องลวง
03-06-2014
»5 สมุนไพรไทยพิชิตความดันโลหิตสูง
19-05-2014
»ผู้ชอบกินทุเรียนควรรู้
09-05-2014
»หลอดไฟตะเกียบสุขภาพ
19-04-2014
»บำบัดอาการคอตกหมอนหรืออาการปวดเมื่อยต้นคอ
19-02-2014
»ฝึกทำสมาธิ ยาอายุวัฒนะใกล้ตัว ช่วยสุขภาพดี หน้าอ่อนกว่าวัย
14-02-2014
»นักวิชาการไต้หวันแนะสร้างเครือข่ายรู้คุณค่าการกินผัก-ผลไม้ ชี้กินอย่างน้อย 400 กรัมต่อวัน
05-02-2014
»7 วิธีกินปิ้งย่างให้ห่างมะเร็ง พบหมักเนื้อด้วย มะนาว ช่วยได้
01-02-2014
 
หน้าแรก  เกี่ยวกับเราคุณครู.คอม


คุณครู.คอม ขอแสดงเจตนาว่าทุกข้อความใน เว็บไซต์นี้ให้คัดลอกได้
ไม่จำกัด เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อการศึกษาเท่านั้น . .

email  [email protected]


kkwebv56   Copyright©2023 kunkroo.com
Development from SMEweb 1.5f By คุณครู.คอม