คุณครู.คอม
.









Online: 22 user(s)

ตั้งแต่ 3 กุมภาพันธ์ 2541





kunkroo radio

ตรวจสอบแทรคไปรษณีย์ไทย

domain register Admin Only

ทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต

ตรวจสอบไอพี(IP check for locate)

..
     


    :  เกี่ยวกับเราคุณครู.คอม
หมวด: สุขภาพ
เตือน! ออกกำลังตอนเช้าทั้งที่ท้องยังว่าง เสี่ยงตับพัง พอๆ กับคนกินเหล้า
19-04-2016 เข้าชมแล้ว: 6465
คนส่วนใหญ่ตื่นเช้ามาออกกำลังคิดว่าอากาศสดชื่น มลพิษน้อย อากาศเย็น ร่างกายยังสดชื่น เพราะได้พักมาทั้งคืน แต่อาจเป็นการทำร้ายสุขภาพมากกว่า!!


      
       เพราะตอนเย็น กินเสร็จเข้านอน ไม่ได้ใช้พลังงาน ขณะที่หลับ ตับจะทำการเปลี่ยนสารอาหาร แล้วนำไปเก็บไว้ในอวัยวะต่างๆ
เช่น น้ำตาลเปลี่ยนเป็นไกลโคเจนไตรกรี เซอร์ไรด์ ไขมันเปลี่ยนเป็นกรดไขมัน โปรตีนเปลี่ยนเป็นฟอสฟาเจน


เตือน! ออกกำลังตอนเช้าทั้งที่ท้องยังว่าง เสี่ยงตับพัง พอๆ กับคนกินเหล้า

        เมื่อตื่นนอนจึงไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่ในเลือด เหมือนกับรถยนต์น้ำมันแห้ง หากออกกำลังกาย ตับจะต้องดึงสารอาหารที่เปลี่ยนไปเก็บไว้
ให้กลับเป็นสารพลังงานในเลือดใหม่เกือบจะทันที
      
       ตับจะต้องทำงานหนักเพิ่มแค่ไหน จะทนสภาพนี้ได้นานเท่าไร เพราะไม่ได้พักเลย เหมือนคนกินเหล้า แล้วไม่กินอาหาร
ตับต้องไปดึงสารอาหารจากที่ต่างๆ มาให้แอลกอฮอล์เผาผลาญ นานๆ เข้า ในตับมีแต่ไขมัน คนนั้นอาจกลายเป็นโรคตับแข็งได้
      
       ที่ถูกต้อง จะต้องกินอาหารและรอ 2 ช.ม.ก่อนจึงจะไปออกกำลังได้ เช่น กินอาหาร ตี 5 พอ 7 โมงเช้าจึงจะออกกำลังกายได้
       ฝรั่งมีแต่คำว่า morning walk ไม่เคยได้ยิน morning jogging เลย นั่นคือ ตอนเช้าออกกำลังกายเบาๆได้เท่านั้น เช่น เดินออกกำลัง
โดยก่อนเดินก็จะกินอาหารเบา ๆ เช่น แซนด์วิช 1 ชิ้นกับโอวัลติน 1 ถ้วย ซึ่งจะใช้เวลาย่อยอาหารสัก 1/2 - 1 ช.ม. ก็พอ
คือกินเล็กน้อย ออกกำลังกายเบาๆ ก็ใช้พลังงานน้อย
      
       ตื่นนอนเช้า ร่างกายยังไม่มีพลังงาน จำเป็นต้องกินอาหารก่อน แต่หลังกินอาหารอิ่ม ก็ยังไม่ควรไปออกกำลังกายทันที
เพราะหลังกินอาหารช่วง 2 ช.ม.แรก จะมีเลือดมารอรับอาหารที่จะถูกย่อย ที่กระเพาะและลำไส้เป็นจำนวนมาก
เพื่อพาไปแจกจ่ายยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ถ้าออกกำลังกายหนักๆ ในตอนนี้ เช่น การวิ่งซึ่งต้องการเลือดมาเลี้ยงที่ขา 20 เท่าตัว
ของสภาวะปกติ เมื่อเลือดมารวมอยู่ที่กระเพาะเป็นจำนวนมาก บวกกับที่ขาอีก 20 เท่าดังกล่าว จะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
ทำให้หน้ามืด เป็นลม หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจตายเฉียบพลัน ถึงชีวิตได้จึงห้ามออกกำลังหลังกินอาหารไม่ถึง 2 ช.ม.เด็ดขาด
รอให้อาหารย่อยหมดแล้ว เลือดที่กระเพาะก็จะกระจายกลับไปหมด ถึงตอนนี้จะออกวิ่งก็จะปลอดภัย




        ลองพิจารณาการออกกำลัง ตอนเย็นบ้าง ถ้าเรากินอาหารเช้ากับกลางวัน พอตกเย็นรับรองว่าพลังงานยังมีเหลือเฟือ ตอนที่ทำงานใช้ไป
ไม่หมดแน่นอนสามารถออกกำลังกายได้เลย แต่อาจเติมอาหารอีกสักเล็กน้อย ก่อนไปออกกำลัง จะทำให้ไม่รู้สึกโหย
(ความจริงไม่ต้องไปกินอะไรเลยก็ได้)ข้อสำคัญ เมื่อออกกำลังตอนเย็นเสร็จแล้ว ให้ดื่มน้ำ โดยค่อยๆ ดื่ม จนรู้สึกอิ่ม พอกลับถึงบ้าน
ท่านจะไม่รู้สึกหิวและไม่อยากกินอะไรอีก
      
       และหลังออกกำลังกายตอนเย็นนี้แล้ว เมื่อถึงเวลาเข้านอน จะเหลือสารอาหารค้างน้อยที่สุด ตับไม่ต้องทำงานมาก สารอาหารไม่ไปเก็บตามที่ต่างๆ
จึงไม่ทำให้อ้วน และไม่เหลือค้าง ในหลอดเลือด โดยเฉพาะไขมัน จึงเป็นวิธีที่จะลดไขมันในเลือดได้ดีที่สุด โดยไม่ต้องกินยา
      
     จากงานวิจัยต่างประเทศ พบว่า การออกกำลังกายตอนเช้าจะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง ส่วนการออกกำลังตอนเย็นจะทำให้ภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น
      
       มีข้อแนะนำ คือ ออกกำลังกายแบบแอโรบิกก่อนนอนเช่น เดินบนสายพาน หรือขี่จักรยาน 30 นาที - 60 นาที หรือยืนแกว่งแขน 20 นาที ก่อนนอน
ไม่ต้องกลัวว่าจะนอนไม่หลับ เพราะร่างกายจะหลั่ง "เอนดอร์ฟีน" ออกมา ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายๆ มอร์ฟีนที่ใช้ฉีดให้คนไข้หลังผ่าตัด
จะทำให้ง่วงนอน คลายความเจ็บปวด คลายเครียดได้ดี
      
       ฉะนั้น ออกกำลังกายเสร็จ อาบน้ำ แล้วเข้านอนเลย ท่านจะนอนหลับสนิทชนิดไม่ฝัน ซึ่งจะต้องการการนอนเพียง 5 ช.ม. ก็เพียงพอ สังเกตว่า
ตอนทำงานช่วงกลางวัน จะไม่เพลีย ไม่ง่วง
      
       นอกจากนี้มีงานวิจัยใหม่ๆ ออกมา พบว่า คนนอน 5 ช.ม. มีโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน น้อยกว่าพวกนอน 7-8 ช.ม.ด้วย

        ___________________________________
      
       ข้อมูล : จากบทความ “ออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดี..?? โดยหมอเสก จุฬาฯ”





หมวด: สุขภาพ
»เรื่องยาเหนือ รมควันฆ่าไวรัส จากหนังสือธัมมวิโมกข์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
14-07-2021
»ระวังเรื่องอาหารปลอม 10 อย่าง
08-10-2017
»การระวังรักษาข้อเข่าเสื่อม
08-01-2017
»“มันเทศ” คุณค่าเพียบ เผย “สีม่วง” สารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี
03-01-2017
»ภาวะไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูงจะทำอย่างไร
08-10-2016
»การดื่ม “น้ำแร่” อาจเป็นการกระตุ้นให้ความดันโลหิตสูง
06-10-2016
»ประโยชน์กล้วยหอมทอง
02-10-2016
»ประโยชน์ของการดื่มเบียร์
01-10-2016
»ฟอกปอดให้สะอาดด้วยของ 4 ชนิด
14-09-2016
»มะเร็งตับอ่อน และท่อน้ำดี ก็หายได้ด้วยฟักข้าวเป็นพระเอก
13-08-2016
»กัญชารักษามะเร็ง!! เปิดประสบการณ์ลับ ผู้ป่วยมะเร็งตับ หมอบอกตายแน่ แต่กัญชาช่วยไว้ได้!
11-08-2016
»เตือน! ออกกำลังตอนเช้าทั้งที่ท้องยังว่าง เสี่ยงตับพัง พอๆ กับคนกินเหล้า
19-04-2016
»4 อาหารต้องห้าม ทำแก่ไม่รู้ตัว
05-04-2016
»แพทย์ญี่ปุ่นชี้ อดข้าวเช้าเสี่ยงความดันสูง,เส้นเลือดแตก
04-03-2016
»อาหารที่ไม่ตวรรับประทานบ่อย 10 อย่าง
29-02-2016
»5 เหตุผลชวนเดินออกกำลัง 9,900 ก้าวต่อวัน
11-11-2015
»พฤติกรรมเนือยนิ่ง นั่งทำงาน นอนเล่นมือถือ ไม่เคลื่อนไหว เสี่ยงตายก่อนวัย ป่วยโรค NCDs
09-09-2015
»4 วิธีไล่มดได้ผล แบบไม่ต้องฆ่า
27-05-2015
»วันความดันโลหิตสูงโลก
17-05-2015
»เห็ดเข็มทองอาหารมหัศจรรย์
10-05-2015
»คอเรสเตอรอล กินได้ ไม่มีปัญหา
02-05-2015
»ออกกำลังกายเวลาไหนดี
17-03-2015
»"รางจืด" ช่วยล้างท้องคนกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตาย
03-03-2015
»เมล็ดทานตะวันและเมล็ดฟักทอง
14-02-2015
»เรื่องกล้วย ๆ แต่ไม่ธรรมดา
10-02-2015
»แร่ใยหิน อันตราย
30-01-2015
»ชาเขียวขวดน้ำตาลเพียบ แนะชงดื่มเองร้อนๆ แบบเข้มข้น
15-01-2015
»5 กฏเหล็ก หน้าเด็ก สั่งได้
07-01-2015
»โรคหัวใจขาดเลือด ตาย 4 ใน 10
07-01-2015
»อยากดั้งโด่ง
07-01-2015
»ลดน้ำหนักด้วยกล้วยหอม
04-01-2015
»อย่าดื่มเหล้าคลายหนาว
21-12-2014
»10 เคล็ดวิธีปิ้งย่างปลอดภัย ไม่ต้องกลัวมะเร็ง
17-12-2014
»แมคคาเดเมีย ราชาแห่งถั่ว ธัญพืชเพื่อสุขภาพ
13-12-2014
»ความดันโลหิต ทำไมต้องมีตัวเลขสองค่า
01-12-2014
»บุหรี่ไฟฟ้ามีสารก่อมะเร็งมากกว่าบุหรี่ธรรมดา 10 เท่า
28-11-2014
»น้ำมันมะกอก
24-11-2014
»ว่านหางจรเข้
24-11-2014
»ระวัง เด็ก ๆก็เป็นเบาหวานได้
16-11-2014
»ใครอยากเลิกเหล้า อ่านงานวิจัยนี้
24-10-2014
»เกสรผึ้ง
20-10-2014
»สารพิษผักผลไม้ในห้างเกินมาตรฐาน
21-08-2014
»นอนหัวค่ำ หน้าอ่อน สมองแจ่มใส
21-08-2014
»น้ำเสาวรส และประโยชน์มหาศาล
05-07-2014
»ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกตากแดดเสี่ยงมะเร็ง แค่เรื่องลวง
03-06-2014
»5 สมุนไพรไทยพิชิตความดันโลหิตสูง
19-05-2014
»ผู้ชอบกินทุเรียนควรรู้
09-05-2014
»หลอดไฟตะเกียบสุขภาพ
19-04-2014
»บำบัดอาการคอตกหมอนหรืออาการปวดเมื่อยต้นคอ
19-02-2014
»ฝึกทำสมาธิ ยาอายุวัฒนะใกล้ตัว ช่วยสุขภาพดี หน้าอ่อนกว่าวัย
14-02-2014
»นักวิชาการไต้หวันแนะสร้างเครือข่ายรู้คุณค่าการกินผัก-ผลไม้ ชี้กินอย่างน้อย 400 กรัมต่อวัน
05-02-2014
»7 วิธีกินปิ้งย่างให้ห่างมะเร็ง พบหมักเนื้อด้วย มะนาว ช่วยได้
01-02-2014
 
หน้าแรก  เกี่ยวกับเราคุณครู.คอม


คุณครู.คอม ขอแสดงเจตนาว่าทุกข้อความใน เว็บไซต์นี้ให้คัดลอกได้
ไม่จำกัด เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อการศึกษาเท่านั้น . .

email  [email protected]


kkwebv56   Copyright©2023 kunkroo.com
Development from SMEweb 1.5f By คุณครู.คอม